heat treatment คือ การอบชุบ ทำไมต้องอบชุบ การอบชุบในที่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของโลหะ ไม่ใช่การอบเพื่อให้โลหะเกิดการแข็งตัวแต่ครอบคลุมไปถึงกรรมวิธีทุกอย่างโดยใช้ความร้อนเข้ามาเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของโลหะ heat treatment มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี heat treatment การอบชุบเหล็กด้วยความร้อนเป็นกระบวนการให้ความร้อน จากนั้นจึงลดความร้อนแก่เหล็ก เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของเหล็กทำให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เพิ่มความเหนียว ความแข็งแรง ต้านทานการกระแทก ต้านทานการกัดกร่อน กันสนิม ฯลฯ กรรมวิธี heat treatment สำคัญมาก ถูกใช้ในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย เพราะเหล็กเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญของเครื่องจักร เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ คุณสมบัติของธาตุที่ผสมลงไปในเหล็กที่ทำการอบชุบ คาร์บอน มีคุณสมบัติทำให้เหล็กแข็งแต่ลดคุณสมบัติในการเป็นตัวนำไฟฟ้าและความร้อน อลูมิเนียม นิยมใช้เป็นตัวไล่แก๊ส ผสมเล็กน้อยในเหล็ก ใช้ผสมในเหล็กที่ผ่านกระบวนการ heat treatmentโดยวิธีไนไตร ผสมในเหล็กทนความร้อนบางชนิดเพื่อให้ต้านทานการตกสะเก็ด โครเมียม ทำให้เหล็กสามารถชุบง่ายขึ้น ลดการเย็นตัวลงอย่างมาก ชุบในน้ำมันหรืออากาศได้ เพื่อความแข็งให้กับเหล็ก ทนต่อการเสียดสี เกิดสนิมยากแต่ลดความทนต่อแรงกระแทก นิกเกิล เพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและทำให้เหล็กทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่เป็นสนิมง่าย แถมยังสามารถทนทานต่อความร้อนได้ดีด้วย ซิลิคอน ทำให้เหล็กแข็งแรง ทนต่อการขัดสี เหล็กสามารถทนต่อการตกสะเก็ดที่อุณหภูมิสูงได้ การ อบชุบ หรือ heat treatment ที่สำคัญๆ มีดังนี้ อบให้อ่อน ทำให้เหล็กล้านั้นง่ายต่อการตกแต่ง นำไปไสกลึง การลดความเค้น ช่วยลดการบิดงอของเหล็กหลังจากผ่านการชุบแข็งมาแล้ว การชุบแข็ง คือกระบวนการที่ทำให้เหล็กที่มีความแข็ง สามารถต้านทางการสึกหรอได้ดี โดยการเผาเหล็กด้วยความร้อนจนระดับอุณหภูมิเหนืออุณหภูมิจุดวิกฤตสิ้นสุดประมาณ 50 องศาเซลเซียส เผาจนความร้อนกระจายทั่วทั้งชิ้นงาน โครงสร้างเปลี่ยนเป็น ออสเตไนท์ นำชิ้นงานไปจุ่มลงในสารชุบทำให้การเย็นตัวลงรวดเร็ว การอบคืนตัว เหล็กที่ผ่านการชุบแข็งจะแข็งแรงมาก มีความเปราะ เพื่อเพิ่มความเหนียวจะผ่านการอบคืนตัว มาร์เทมเปอริ่ง เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีความหนามากๆ ช่วยลดการบิดงอของชิ้นงาน ออสเทมเปอริ่ง ...
Read More